เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ถ้าพูดถึงสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่เห็นได้ทันทีก็คงไม่ใช่ภูเขาไฟฟูจิ ด้วยความสูง 3,776 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จึงเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกคนที่มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ต้องการเห็นความงามของภูเขาไฟฟูจิอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เมื่อคุณนึกถึงประเทศญี่ปุ่น คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากทุกที่ แต่สิ่งแรกที่นึกถึงคือภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่บอกว่ามาญี่ปุ่นแล้วต้องถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิ จุดสังเกตภูเขาไฟฟูจิอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการรวมไว้ในแผนการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวมักจะชอบถ่ายภาพวิวธรรมชาติที่สวยงาม การตัดกันระหว่างหิมะสีขาวบนยอดเขาฟูจิกับท้องฟ้าสีครามนั้นช่างสวยงาม มุมมองระดับพรีเมียมที่ทุกคนอยากเห็นอย่างน้อยสักครั้ง
เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ต้องห้ามพลาด
- ฤดูปืนภูเขาไฟฟูจิ
เปิดมากิจกรรมแรกกันเลย ที่มาภูเขาไฟฟูจิแห่งประเทศญี่ปุ่นทั้งที ต้องลองมานี่เลยค่ะ เตรียมขาให้แข็งแกร่งแล้วเดินตามกันมาเลย ฤดูกาลปีนเขาไฟฟูจิจะจัดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ นั่นก็คือประมาณเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี กิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมไปพิชิตยอดเข้ามาแล้วมากกว่าพันคน หากใครสนใจอยากเป็นหนึ่งในนักพิชิตยอดเขา อย่าลืมศึกษาเส้นทาง และฟิตร่างกายในพร้อมกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่มากไม่น้อย เพียง 4-8 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สิ่งของที่ต้องนำติดตัวไปด้วยได้แก่ รองเท้าปีนเขา, หมวก, แผนที่เดินเขา, น้ำดื่มและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ แล้วแต่สะดวก แต่อยากแอบบอกว่าถ้าพกไปเยอะเกิน จะแอบหนักแล้วเดินไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่ - สถานี Fuji Subaru Line 5th
ถึงเป็นจุดแวะพักทั้งรถทั้งคนเลยก็ว่าได้ค่ะกับสถานที่แห่งนี้ Fuji Subaru Line 5th Station (富士スバルライン五合目) บริเวณนี้เป็นส่วนของทางเข้าที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดคือบริเวณ “เส้นทางโยชิดะ” (Yoshida trail) นั่นเองค่ะ ขออธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะว่า เหมือนเป็นจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวที่จะนัดเจอกันก็ให้มายังจุดนี้ อารมณ์ประมาณพื้นที่กว้างโล่ง เจอกันง่ายและยังเป็นจุดพักรถของรถบัสบางสายที่มีเส้นทางเดินรถไกลอย่าง โตเกียว-ภูเขาไปฟูจิ ด้วย นอกจะเป็นจุดนัดพบเพื่อนเตรียมตัวไปชมความงามของภูเขาไปฟูจิแล้ว ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารและแหล่งพักจัดกระเป๋าก่อนทีทุกคนจะออกเดินทางเพื่อไปชมความงามของภูเขาไปฟูจิกัน - ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า
มาต่อกันที่สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำคัญอีกหนึ่งอย่างเมื่อว่าภูเขาไฟฟูจิกันคะ นี่คือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติคือทะเลสาปทั้ง 5 ที่อยู่ล้อมรอบฟูจิซังบริเวณตีนเขานั่นเอง คนไทยอาจจะเรียกว่าทะเลสาปทั้งห้า หรือภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า Fuji Goko ประกอบด้วยทะเลสาบโมโตซุ, ทะเลสาบไซ, ทะเลสาบโชจิ, ทะเลสาบคาวางูจิและ ทะเลสาบยามานากะ เป็นจุดหมายปลายทางที่ฮอตฮิตจากนั่งท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกที่เมืองมายังภูเขาไฟฟูจิแล้ว ต้องลองมาเดินชมวิวธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี นอกจากนี้ใครมาแล้วห้ามพลาด ปืนเขา, ตั้งแคมป์, ตกปลา,พายเรือและกิจกรรมอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ถ้าถามว่าในทะเลสาปทั้งห้า ทะเลสาปไหนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุด งั้นต้องขอตอบเป็นว่า เป็นทะเลสาบคาวางูจิ ทั้งวิวสวยระดับพรีเมียมและเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าที่มาจอดที่ สถานีคาวางูจิ แล้วมาเที่ยวชมทะเลสาบแห่งนี้ได้เลย - นั่งกระเช้าคาจิคาจิ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลย ต้องไปลอง “นั่งกระเช้าคาจิคาจิ” ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบคาวางูจิและจะลอยข้ามผ่านถึงบนยอดเขาของภูเขาเทนโจ จากจุดสูงสุดที่กระเช้าพาเราไป เพื่อน ๆ จะสามารถมองเห็นวิวบรรยากาศรอบ ๆ ของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวางูจิ พร้อมต้นไม้หน้าทึบ สีเขียวหนาแน่นสบายตา หากใครไปแล้วอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันเยอะ ๆ - สวนสาธารณะยามานากาโกะ ฮานาโนะมิยาโกะ
หากใครเป็นสายดอกไม้ต้องชอบที่นี่แน่ ๆ เลยค่ะ สวนสาธารณะยามานากาโกะ ฮานาโนะมิยาโกะ สวนดอกไม้นานาพรรณที่มีดอกไม้ไว้ให้เพื่อน ๆ แวะไปชมความงามและเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มเมม สวนดอกไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบยามานากาโกะ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดจากทั้งบรรดาทั้งห้าทะเลสาบ หากเพื่อน ๆ เดินเข้าไปจะมองเห็นสวนดอกไม้แบบสุดสายตาเลยแต่ของแบบนี้ไม่สามารถเห็นได้ตลอดทั้งปีนะคะ ซึ่งฤดูกาลที่เราจะเห็นสีสันสวยของดอกไม้แบบในรูปจะมีเพียงช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น หากใครไปในช่วงเวลาดังกล่าวอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกันได้นะคะ ภายในสวนมีทั้งดอกทานตะวัน, ดอกทิวลิป, ดอกคอสโมและอื่น ๆ - หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ
Oshino Hakkai (忍野八海) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันก็คือ “หมู่บ้านน้ำใส” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ผู้คนนิยมกันมานะคะ ด้วยทิวทัศน์ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิและยังอยู่ใกล้กับทะเลสาบทั้งห้าอีกด้วย ภายในนี้จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่ดูน่าหลงไหลหวนให้นึกกลับไปสมัยญี่ปุ่นโบราณพร้อมทั้งยังมีบึงน้ำในเเจ๋วจนสามารถมองเห็นตัวปลาที่แหวกว่ายภายในบึง ทำให้ผู้คนที่มายังที่แห่งนี้รู้สึกผ่อนคลายในการมาดูความงามแบบหาที่ไหนไม่ได้ ภายในหมู่บ้านน้ำใสมีบึงน้ำทั้งหมดถึง 8 บึงด้วยกัน ที่เห็นน้ำใส ดูสีฟ้าสวยขนาดนี้เป็นเพราะว่าเป็นน้ำที่ได้มาจากการละลายตัวของน้ำแข็งจากภูเขาไปฟูจินั่นเอง